ISOMETRIC คืออะไรในทางสถาปัตยกรรม
- immersearchitect
- Nov 12, 2024
- 1 min read
Updated: Nov 14, 2024

ในวงการสถาปัตยกรรม Isometric หรือ "การแสดงภาพในรูปแบบอีโซเมตริก" เป็นหนึ่งในเทคนิคการวาดภาพที่ใช้ในการแสดงโมเดลหรือรูปทรงต่างๆ ในมุมมองที่สามมิติ (3D) แต่ในขณะที่การวาดรูปสามมิติโดยปกติจะใช้มุมมองที่มีการหดตัว (perspective) อีโซเมตริกจะไม่ทำให้วัตถุหดตัวตามระยะทาง แต่จะยังคงรักษาขนาดและมุมต่างๆ ไว้เหมือนเดิมทุกส่วน สิ่งนี้ทำให้ Isometric เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการแสดงรายละเอียดและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ ในการออกแบบสถาปัตยกรรม


1. การทำความเข้าใจ Isometric
ในการวาดภาพแบบ Isometric, ทุกด้านของวัตถุที่แสดงจะมีมุม 30 องศาจากแนวนอน ซึ่งหมายความว่าเส้นทั้งสาม (แนว X, Y และ Z) จะถูกลากออกไปในมุมที่เท่ากัน ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมมองใดของโมเดล ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพสามมิติที่มีมุมมองที่สมดุลและเหมือนจริงในทุกมิติ แต่ไม่มีการบิดเบือนหรือหดตัวตามระยะทางแบบที่พบในภาพ Perspective
2. ทำไมต้องใช้ Isometric ในสถาปัตยกรรม?
ความชัดเจนในการแสดงรายละเอียดการใช้ Isometric ในการออกแบบสถาปัตยกรรมช่วยให้เห็นรายละเอียดของอาคารหรือพื้นที่ได้อย่างชัดเจนและเป็นระเบียบ ภาพที่วาดในรูปแบบนี้จะไม่มีการบิดเบือนหรือการหดตัวของวัตถุจากมุมมองระยะไกล ซึ่งทำให้สามารถวาดรายละเอียดของโครงสร้างหรือการจัดเรียงพื้นที่ภายในได้อย่างครบถ้วน
การสื่อสารที่ง่ายและตรงไปตรงมาเพราะไม่ต้องคำนึงถึงการบิดเบือนตามระยะทางหรือมุมมองที่ซับซ้อน ทำให้การใช้ Isometric ช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าใจการออกแบบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสถาปนิกต้องการสื่อสารกับลูกค้าหรือทีมงานที่ไม่คุ้นเคยกับเทคนิคการวาดแบบ Perspective
ความแม่นยำในการออกแบบด้วยการแสดงภาพในลักษณะนี้ ทุกส่วนของอาคารจะถูกแสดงออกมาในสัดส่วนที่สมจริงและไม่ผิดเพี้ยน สิ่งนี้ช่วยให้สถาปนิกสามารถตรวจสอบความถูกต้องของการออกแบบในทุกมิติ และยังสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Isometric กับ Perspective - ต่างกันอย่างไร?
แม้ว่า Isometric และ Perspective จะเป็นเทคนิคการแสดงภาพที่มีจุดประสงค์ในการถ่ายทอดรูปทรงสามมิติ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน:
Perspective ใช้หลักการที่มุมมองและขนาดของวัตถุจะหดตัวเมื่อมันไกลออกไปจากผู้ชม เช่นเดียวกับที่เรามองโลกในชีวิตจริง
Isometric จะรักษาขนาดและมุมของวัตถุเอาไว้ที่มุมเท่าๆ กัน โดยไม่มีการหดตัวตามระยะทาง ซึ่งทำให้วัตถุในภาพ Isometric จะดูเหมือนมีขนาดเท่ากันทั้งหมด ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล
4. การใช้ Isometric ในงานออกแบบสถาปัตยกรรม
Isometric มักจะถูกนำมาใช้ในหลายขั้นตอนของการออกแบบสถาปัตยกรรม เช่น:
การออกแบบเบื้องต้นสถาปนิกสามารถใช้ภาพ Isometric ในการออกแบบโครงสร้างเบื้องต้น หรือแสดงภาพรวมของอาคารให้กับลูกค้าหรือทีมงานได้เห็นความสัมพันธ์ของพื้นที่ต่างๆ อย่างชัดเจน
การสื่อสารกับทีมงานภาพ Isometric ยังใช้ในการสื่อสารรายละเอียดของการก่อสร้างกับทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การแสดงตำแหน่งของประตู หน้าต่าง หรือส่วนต่างๆ ของอาคารในมุมมองที่เข้าใจง่าย
การพัฒนาโมเดล 3Dแม้ว่าการออกแบบสถาปัตยกรรมจะใช้โปรแกรม 3D ในการสร้างโมเดล แต่การใช้ Isometric ก็ยังมีประโยชน์ในการแสดงรายละเอียดของรูปทรงต่างๆ ที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว
5. ข้อดีของ Isometric ในการออกแบบสถาปัตยกรรม
ลดความซับซ้อน: เพราะไม่ต้องคำนึงถึงมุมมองหรือการหดตัว ทำให้การวาดภาพแบบ Isometric สามารถทำให้การออกแบบเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ช่วยตรวจสอบฟังก์ชันของพื้นที่: ภาพ Isometric ช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างฟังก์ชันของพื้นที่ต่างๆ และช่วยตรวจสอบได้ว่าสามารถใช้งานได้ดีหรือไม่
สื่อสารแนวคิดการออกแบบได้รวดเร็ว: สถาปนิกสามารถถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบได้อย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา ซึ่งเหมาะกับการนำเสนอให้ลูกค้าหรือทีมงานในช่วงเริ่มต้นของการออกแบบ
สรุป
Isometric เป็นเครื่องมือสำคัญในงานสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้สถาปนิกสามารถแสดงภาพสามมิติในลักษณะที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ง่าย โดยไม่ต้องคำนึงถึงการหดตัวตามระยะทาง ทำให้ภาพที่ได้สามารถแสดงรายละเอียดของโครงสร้างหรือพื้นที่ได้ชัดเจน เหมาะสมกับการสื่อสารและการตรวจสอบการออกแบบทั้งในขั้นตอนเริ่มต้นและในระหว่างการพัฒนาโครงการ.
Comments